การแจ้งเตือน

หากต้องทํางานกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงานจากระยะไกลและในสํานักงาน โปรดดูวิธีทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมการทํางานแบบผสมผสาน

จัดกิจกรรมทางไกลที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก

บทแนะนําทางธุรกิจของ Google Workspace

 สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้มีดังนี้

วิธีจัดกิจกรรมออนไลน์ขนาดใหญ่ เช่น การประชุมทางวิดีโอและสตรีมแบบสดโดยใช้ Google Meet 

สิ่งที่ต้องมี

10 นาที

บัญชี Google Workspace หากยังไม่มี ให้เริ่มช่วงทดลองใช้ 14 วันได้เลย

" "

ในบทแนะนำนี้

สร้างกิจกรรมสำหรับผู้เข้าร่วมภายในและภายนอก สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสด แนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการจัดกิจกรรมทางไกล
" "

1 สร้างกิจกรรม

ขยายทั้งหมด  |  ยุบทั้งหมดยุบทั้งหมด

สร้างกิจกรรมวิดีโอสำหรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 1,000 คน

วิดีโอต่อไปนี้แสดงวิธีสร้างกิจกรรมการประชุมทางวิดีโอสำหรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 1,000 คน หากมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน ให้สร้างกิจกรรมไลฟ์สดแทน หากต้องการสร้างกิจกรรมไลฟ์สดที่มีผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 100,000 คน โปรดแจ้งให้ผู้ดูแลระบบไอทีดูหัวข้อจัดไลฟ์สดขนาดใหญ่ด้วยแบนด์วิดท์น้อยกว่าโดยใช้ eCDN

สร้างกิจกรรมในปฏิทิน
  1. เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์
  2. ไม่บังคับ: หากต้องการเพิ่มผู้เข้าร่วมในกิจกรรม ให้คลิกค้นหาผู้คนทางด้านซ้าย แล้วพิมพ์ชื่อของผู้เข้าร่วม
  3. คลิกเวลาในปฏิทินที่ยังไม่ได้กำหนดเวลากิจกรรมไว้
  4. ใส่ชื่อและรายละเอียดกิจกรรม
  5. คลิกบันทึก

เคล็ดลับ: หากต้องการสร้างกิจกรรมที่ใช้เวลานานขึ้น ให้ลากเมาส์ลงมาที่ด้านล่างของหน้าเมื่อ���ลือกเวลา

สร้างกิจกรรมสำหรับการทำงานร่วมกัน

ก่อนเริ่มกิจกรรม: สร้างกำหนดการและแชร์เนื้อหา

  1. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ในหน้าแรกของ Google เอกสาร 

    • หากต้องการเริ่มต้นด้วยเอกสารเปล่า ให้คลิกสร้าง

    • หากต้องการใช้เทมเพลต ให้คลิกแกลเลอรีเทมเพลต คุณอาจลองใช้เทมเพลตบันทึกการประชุม
  2. เพิ่มรายละเอียดกำหนดการโดยใส่ลิงก์ของไฟล์ที่ต้องการทำงานร่วมกันด้วย

    หมายเหตุ: โปรดตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมมีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ที่แชร์ในระดับที่เหมาะสม

  3. คลิกแชร์เพื่อเริ่มแชร์กำหนดการ
  4. แนบกำหนดการไว้ที่กิจกรรมในปฏิทิน
    1. ดับเบิลคลิกกิจกรรมดังกล่าวในตารางปฏิทิน
    2. คลิกเพิ่มไฟล์แนบ แล้วเลือกกำหนดการ
    3. คลิกบันทึก
    4. คลิกส่ง

โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับการแชร์และระดับการเข้าถึงได้ที่หัวข้อเริ่มต้นใช้งาน Google เอกสาร

ระหว่างจัดกิจกรรม: เปิด 2 หน้าต่างใน Chrome

  1. เข้าร่วมกิจกรรมใน Google Meet ในหน้าต่างแรก และใช้หน้าต่างนี้โต้ตอบกับผู้เข้าร่วม 

  2. แทนที่จะนำเสนอกำหนดการและเนื้อหาที่แชร์ใน Google Meet ให้เปิดกำหนดการหรือเนื้อหาที่แชร์ในอีกหน้าต่างเพื่อดูและทำงานร่วมกับแบบเรียลไทม์  

  3. เปิดหน้าต่างทั้งสองไว้ข้างกันเพื่อดูทั้งเนื้อหาและผู้เข้าร่วมพร้อมกัน
  4. แนะนำให้ผู้เข้าร่วมจัดหน้าจอแบบเดียวกัน

หมายเหตุ: ผู้นำเสนอกิจกรรมจะต้องแจ้งให้ผู้เข้าร่วมเปลี่ยนหน้าเนื้อหาตามการนำเสนอ เช่น “คราวนี้ให้ดูสไลด์ที่ 5”

เข้าร่วมกิจกรรม

เข้าร่วมกิจกรรมจาก Gmail

  1. เปิด Gmail แล้วคลิก Meet ในแถบด้านข้าง
  2. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
    • คลิกการประชุมใหม่เพื่อเริ่มการประชุมใหม่เข้าร่วมเลย
    • คลิกเข้าร่วมการประชุม แล้วป้อนชื่อเล่นหรือรหัสการประชุมเข้าร่วม
    • หากต้องการเข้าร่วมการประชุมที่กําหนดเวลาไว้ ให้ชี้ไปที่การประชุมในส่วนการประชุมของฉันเข้าร่วมเลย

เข้าร่วมกิจกรรมจากปฏิทิน

  1. คลิกกิจกรรมที่ต้องการเข้าร่วมใน Google ปฏิทิน
  2. คลิกเข้าร่วมด้วย Google Meet
  3. ในหน้าต่างที่เปิดขึ้นมา ให้คลิกเข้าร่วมเลย 

เข้าร่วมกิจกรรมจาก Meet

หากการประชุมอยู่ในรายการกิจกรรมที่กำหนดเวลาไว้ใน Meet ให้เลือกการประชุม��ั้นแล้วคลิกเข้าร่วมเลย หรือจะเข้าร่วมโดยใช้รหัสการประชุมก็ได้ โดยทำดังนี้

  1. ป้อน https://meet.google.com ในเว็บเบราว์เซอร์
  2. คลิกป้อนรหัสหรือชื่อเล่นจากนั้นป้อนรายละเอียดจากนั้นคลิกเข้าร่วม
    • รหัสการประชุมคือชุดตัวอักษรที่อยู่ท้ายลิงก์การประชุม โดยคุณไม่จำเป็นต้องป้อนเครื่องหมายขีดกลาง
    • คุณจะใช้���ื่อเล่นการประชุมได้เฉพาะกับคนในองค์กรของคุณเท่านั้น ฟีเจอร์นี้มีให้บริการเฉพาะผู้ใช้ Google Workspace เท่านั้นในขณะนี้
    • หากองค์กรซื้อและติดตั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Meet คุณก็จะพิมพ์รหัสหรือชื่อเล่นการประชุมลงในอุปกรณ์นั้นได้เช่นกัน

  3. คลิกเข้าร่วมเลย

หากพบปัญหาในการเข้าร่วมการประชุม โปรดดูหัวข้อการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเข้าร่วมและการสร้างการประชุม

นำเสนอระหว่างจัดกิจกรรม
ผู้จัดการประชุมที่มี Google Workspace for Education สามารถป้องกันไม่ให้ผู้เข้าร่วมแชร์หน้าจอของตนเองได้ 
  1. ใน Google ไดรฟ์ ให้เปิดไฟล์ Google เอกสาร, Google ชีต หรือ Google สไลด์ที่ต้องการแชร์หรือนำเสนอ
  2. (ไม่บังคับ) หากต้องการแก้ไขเอกสาร สเปรดชีต หรืองานนำเสนอพร้อมกันกับผู้เข้าร่วม ให้ดำเนินการดังนี้
    1. ที่มุมขวาบน ให้คลิกแชร์
    2. เพิ่มชื่อในเอกสาร แล้วคลิกบันทึก
    3. เพิ่มผู้เข้าร่วมการประชุมและให้สิทธิ์เอดิเตอร์กับทุกคน
    4. คลิกส่ง
  3. เปิด Google Meet และเข้าร่วมการประชุม
  4. คลิกนำเสนอทันทีแล้วเลือกสิ่งที่ต้องการแชร์ดังนี้
    • ทั้งหน้าจอ
    • หน้าต่าง
    • แท็บ
  5. คลิกแชร์

เคล็ดลับ: หากคุณไม่ได้ใช้เบราว์เซอร์ Chrome (ซึ่งจะซ่อนการแจ้งเตือนป๊อปอัปโดยอัตโนมัติ) ให้ปิดเสียงหรือปิดการแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้ปรากฏขึ้นในระหว่างที่คุณนำเสนอ

หากกล้องเปิดอยู่ ผู้เข้าร่วมจะยังคงเห็นวิดีโอในขณะที่คุณกำลังนำเสนอ

หากพบปัญหาในการนําเสนอ โปรดดูหัวข้อแก้ปัญหาเกี่ยวกับกล้องและงานนําเสนอ

เข้าร่วมเพื่อนำเสนอเท่านั้น

เมื่อคุณเข้าร่วมการประชุมเพื่อนำเสนอ ระบบจะแสดงเฉพาะหน้าต่างหรือแอปพลิเคชันในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังการประชุม โดยจะไม่มีการรับหรือส่งเสียงและภาพอย่างอื่น

  1. ไปที่ https://meet.google.com/
  2. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
    • เลือกการประชุมที่กำหนดเวลาไว้
    • คลิกป้อนรหัสหรือชื่อเล่นจากนั้นป้อนรายละเอียดจากนั้นคลิกเข้าร่วม
  3. คลิกนำเสนอ
  4. เลือกหน้าต่างหรือแอปพลิเคชันที่ต้องการ
  5. เลือกแชร์

หยุดนำเสนอ

เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ใน Meet ตามวิธีที่ต้องการแชร์เนื้อหา

  • ทั้งหน้าจอหรือหน้าต่าง - คลิกหยุดนำเสนอที่ด้านบน หรือคลิกหยุดแชร์ที่ด้านล่าง
  • แท็บใน Chrome - คลิกหยุดที่ด้านบน
บันทึกวิดีโอกิจกรรม

การบันทึกใช้งานได้ใน Meet เวอร์ชันคอมพิวเตอร์เท่านั้น ผู้ใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะได้รับแจ้งเตือนเมื่อเริ่มหรือหยุดการบันทึก แต่จะควบคุมการบันทึกไม่ได้

คุณจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ก็ต่อเมื่อองค์กรของคุณรองรับฟีเจอร์นี้เท่านั้น โปรดติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลระบบ
  1. เปิด Meet
  2. ที่ด้านล่างในการประชุมวิดีโอ ให้คลิกกิจกรรม จากนั้นการบันทึกจากนั้นเริ่มบันทึกจากนั้นเริ่ม
    ไปที่หัวข้อไม่พบปุ่มบันทึก หากจำเป็น
  3. รอให้การบันทึกเริ่มต้นขึ้น
    ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อการบันทึกเริ่มขึ้นหรือหยุดลง
  4. คลิกหยุดการบันทึก เมื่อต้องการ
    หรือการบันทึกจะหยุดลงเมื่อทุกคนออกจากการประชุม
  5. คลิกหยุดการบันทึกอีกครั้งเพื่อยืนยัน

เมื่อระบบเตรียมไฟล์บันทึกพร้อมแล้ว ไฟล์นั้นจะถูกบันทึกไว้ไนโฟลเดอร์บันทึกของ Meet ในโฟลเดอร์ไดรฟ์ของฉันของผู้จัดการประชุม นอกจากนี้ระบบจะส่งอีเมลที่มีลิงก์ของไฟล์บันทึกให้กับผู้จัดการประชุมและบุคคลที่เริ่มการบันทึกด้วย

↑ กลับไปด้านบน

" "

2 สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสด


 
ภาพรวม

คุณจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ก็ต่อเมื่อองค์กรของคุณรองรับฟีเจอร์นี้เท่านั้น โปรดติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลระบบ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานสตรีมแบบสดที่อัปเดตแล้ว

คุณสามารถเพิ่มสตรีมมิงแบบสดที่ให้สิทธิ์ดูอย่างเดียวลงในกิจกรรมได้ เช่น การประชุมสำหรับพนักงานทุกคนในองค์กร โดยผู้ใช้ในองค์กรจะเข้าร่วมได้สูงสุด 100,000 คน

สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสดสำหรับผู้นำเสนอซึ่งจะเริ่มและหยุดสตรีมแบบสดระหว่างการประชุม รวมทั้งบันทึกวิดีโอกิจกรรมได้ จากนั้นก็สร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียวอีกรายการให้ผู้เข้าร่วม

สร้างกิจกรรมไลฟ์สดสำหรับผู้นำเสนอ
  1. เปิด Google ปฏิทิน
  2. คลิกสร้าง จากนั้น กิจกรรม จากนั้น ตัวเลือกเพิ่มเติม
  3. เพิ่มรายละเอียดกิจกรรม เช่น วันที่ เวลา และคำอธิบาย
  4. เพิ่มผู้เข้าร่วมซึ่งจะมีสิทธิ์เต็มรูปแบบในการประชุมทางวิดีโอ
    • ผู้เข้าร่วมทุกคนที่เพิ่มไว้ในกิจกรรมนี้จะเปิดกล้อง เปิดไมค์ และนำเสนอหน้าจอของตนเองได้
    • เพิ่มผู้เข้าร่วมจากองค์กรอื่นและโดเมนที่น่าเชื่อถือได้ เฉพาะคนในองค์กรเท่านั้นที่จะบันทึกและควบคุมสตรีมมิงได้
  5. คลิกลูกศรลงข้างเข้าร่วมด้วย Google Meet จากนั้น เพิ่มไลฟ์สด
  6. คลิกบันทึก จากนั้น ส่ง
    หมายเหตุ: สตรีมมิงจะไม่เริ่มต้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นหากต้องการเริ่มสตรีมมิงในระหว่างการประชุม ให้คลิกเครื่องมือการประชุม ที่ด้านขวาล่าง จากนั้น การไลฟ์สด จากนั้น เริ่มสตรีมมิง
สร้างกิจกรรมเพิ่มเติมสำหรับผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียว

หากต้องการเชิญเฉพาะคนที่คุณต้องการให้เข้าร่วมสตรีมสดแบบดูอย่างเดียว โปรดสร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียว ระบบจะเพิ่มกิจกรรมนี้ไปยังปฏิทินของผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียว พร้อมระบุลิงก์การประชุม

ผู้เข้าร่วมจะไม่เห็นหรือได้ยินเสียงของคนที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมแบบดูอย่างเดียวนี้ และผู้ที่ได้รับเชิญจะนำเสนอ บันทึก หรือควบคุมสตรีมมิงไม่ได้ด้วย

เคล็ดลับ: หากได้รับเชิญ ผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะเข้าร่วมสตรีมแบบสดได้ แม้ว่าบัญชีของผู้เข้าร่วมจะไม่รองรับสตรีมมิงแบบสดหรือองค์กรของผู้เข้าร่วมปิดสตรีมมิงแบบสดอยู่ก็ตาม

  1. เปิด Google ปฏิทิน
  2. คลิกกิจกรรมสตรีมแบบสดที่คุณสร้าง จากนั้น แก้ไข
  3. คลิกการดำเนินการเพิ่มเติม จากนั้น สร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียวที่ด้านบน
  4. เพิ่มผู้เข้าร่วมหรือห้องประชุมที่มีสิทธิ์เข้าถึงแบบดูอย่างเดียว และรายละเอียดอื่นๆ เช่น คำอธิบาย
    1. หากต้องการอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าร่วมจากห้องในฮาร์ดแวร์ของ Google Meet ของตนเอง ให้ตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมมีสิทธิ์แก้ไขกิจกรรม
  5. คลิกบันทึก จากนั้น ส่ง
เริ่มกิจกรรมไลฟ์สด

หากผู้ดูแลระบบอนุญาต ผู้เข้าร่วมทุกคนที่อยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัดการประชุมจะมีสิทธิ์เริ่มหรือหยุดสตรีมแบบสดได้ สตรีมแบบสดจะหยุดโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไป 8 ชั่วโมง เนื่องจากสตรีมแบบสดมีเวลาจำกัดที่ 8 ชั่วโมง 

คุณเริ่มหรือหยุดสตรีมแบบสดได้ในกรณีต่อไปนี้

  • คุณคือผู้จัด
  • คุณอยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัด
  • ผู้ดูแลระบบอนุญาตให้คุณเข้าร่วมในสตรีมแบบสด
  • คุณเข้าร่วมในฐานะผู้เข้าร่วมเต็มรูปแบบ

ผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะดูได้แต่จะควบคุมสตรีมแบบสดไม่ได้

  1. เปิด Google ปฏิทินและเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอ
  2. เลือกเพิ่มเติม จากนั้น เริ่มสตรีมมิง
  3. ยืนยันว่าคุณต้องการเริ่มสตรีมมิง เมื่อสตรีมมิงเปิดอยู่ ที่ด้านบนซ้ายระบบจะมีคำว่า “สด” แสดงอยู่ และผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะดูการประชุมได้โดยใช้ URL ของสตรีม
  4. เลือกเพิ่มเติม จากนั้น หยุดสตรีมมิง
  5. ยืนยันว่าคุณต้องการหยุดสตรีมมิง
หากพบปัญหาในการสตรีมมิง โปรดดูหัวข้อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับไลฟ์สด
บันทึกกิจกรรมไลฟ์สด

ผู้เข้าร่วมที่มีสิทธิ์เต็มรูปแบบซึ่งอยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัดการประชุมจะบันทึกสตรีมแบบสดเพื่อให้ผู้คนรับชมกิจกรรมดังกล่าวหลังจากที่การประชุมสิ้นสุดแล้วได้ ระบบจะไม่บันทึกกิจกรรมสตรีมแบบสดโดยอัตโนมัติ คุณจะต้องเริ่มและหยุดการบันทึกด้วยตนเอง

หากต้องการบันทึกกิจกรรมสตรีมแบบสด ให้คลิกเพิ่มเติม เพิ่มเติมจากนั้นบันทึกการประชุม��นการประชุมดังกล่าว

โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อบันทึกการประชุมทางวิดีโอ

หากพบปัญหาเกี่ยวกับการบันทึก โปรดดูหัวข้อเล่น แชร์ ดาวน์โหลด หรือบันทึกวิดีโอการประชุม

ดูกิจกรรมไลฟ์สด
ผู้ที่ใช้ลิงก์สตรีมแบบสดจะโต้ตอบกับผู้เข้าร่วมการประชุมหรือคนอื่นๆ ที่กำลังดูสตรีมนี้ไม่ได้

ผู้เข้าร่วมจะดูกิจกรรมสตรีมแบบสดได้โดยวิธีต่อไปนี้

  • คลิกลิงก์สตรีมแบบสดในกิจกรรมของปฏิทินหรืออีเมล
  • ดูจากห้องประชุมที่เพิ่มลงในกิจกรรมและตั้งค่าด้วย Chromebox หรือ Chromebase สำหรับการประชุม

เมื่อดูกิจกรรมสตรีมแบบสด คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้

  • แสดงหรือหยุดการเล่นสตรีมแบบสด
  • ปรับความเร็วในการเล่นและคุณภาพของวิดีโอ
  • เล่นวิดีโอในทีวี
  • เปลี่ยนเป็นโหมดเต็มหน้าจอ

หมายเหตุ: หากต้องการรับชมกิจกรรมนี้ในภายหลัง โปรดสอบถามผู้จัดการประชุมว่ามีไฟล์บันทึกหรือไม่ คุณจะรับชมสตรีมแบบสดได้ในขณะที่กำลังมีการถ่ายทอดสดอยู่เท่านั้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไลฟ์สดที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google Meet

↑ กลับไปด้านบน

" "

3. แนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการจัดกิจกรรมทางไกล


 
ตั้งค่าและทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้สายอีเทอร์เน็ต (หากมี) หากไม่มี ให้ใช้ Wi-Fi ในคลื่นความถี่ 5 GHz (ส่วนความถี่ย่าน 2.4 GHz มักมีการใช้งานเป็นจำนวนมากและอาจทำให้การเชื่อมต่อวิดีโอไม่เสถียร)
  • หากใช้ Wi-Fi ให้สร้างการประชุมทดสอบเพื่อตรวจสอบว่าได้รับสัญญาณที่แรงเพียงพอในตำแหน่งที่จะใช้งาน หากคุณมองเห็นเราเตอร์ได้โดยตรง แปลว่าคุณได้รับสัญญาณแรงที่สุดแล้ว
  • หากการเชื่อมต่อช้า ให้ใช้การทดสอบความเร็วเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 3.2 Mbps
  • ขณะที่กำลังประชุมทางวิดีโอ ให้ลดกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตภายในบ้านให้น้อยที่สุดเพื่อให้มีแบนด์วิดท์เพียงพอ
เลือกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
  • นั่งในบริเวณที่มีแสงเพียงพอโดยให้แสงกระทบใบหน้าและไม่ย้อนแสง เพื่อไม่ให้หน้ามีความมืดเกินไป ทำการทดสอบโดยลองเข้าร่วมประชุมกับเพื่อนร่วมงานเพื่อจัดตำแหน่งกล้องและแสงให้เหมาะสม
  • การใช้ฉากหลังเรียบๆ และห้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อยจะเหมาะสมกับการประชุมทางธุรกิจแบบมืออาชีพมากที่สุด
  • ควรใช้สถานที่ที่ไม่ค่อยมีเสียงรบกวน แต่ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีเสียงรอบข้างดัง ให้ปิดเสียงไมโครโฟนในขณะที่ไม่ได้พูด นอกจากนี้คุณยังใช้ฟีเจอร์คำบรรยายสดของ Meet เพื่อแสดงคำบรรยายแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
เคล็ดลับเกี่ยวกับอุปกรณ์

หูฟัง ไมโครโฟน และกล้อง

  • ลองใส่หูฟังหรือหูฟังเอียร์บัดเพื่อให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและยังช่วยลดเสียงสะท้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการประชุมได้
  • หากคุณต้องการพิมพ์ไปด้วยในขณะที่กำลังสนทนาอยู่ ให้ใช้ไมโครโฟนภายนอก เช่น ไมโครโฟนของชุดหูฟังหรือไมโครโฟน USB สำหรับพอดแคสต์
  • ชุดหูฟังและไมโครโฟนแบบมีสายมักให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าแบบไร้สาย
  • อัปเกรดชุดหูฟัง ไมโครโฟน และกล้องให้เป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุดจากผู้ผลิต
  • ตรวจสอบว่า Meet ใช้กล้อง ไมโครโฟน และลำโพงที่ถูกต้อง เช่น แม้คุณจะสวมชุดหูฟัง แต่ Meet อาจกำลังใช้ไมโครโฟนของเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่

จัดการกับอุปกรณ์ที่ทำงานช้าหรือประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ดี

  • อัปเดตคอมพิวเตอร์ให้เป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด
  • ลองนำเสนอจากแล็ปท็อปเครื่องอื่น (หากมี) หรือใช้สมาร์ทโฟน (ที่มีแอป Meet สำหรับ iOS หรือ Android ) เพื่อลดการใช้งาน CPU
  • ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงการรับส่งข้อมูลของ Meet (เช่น ไฟร์วอลล์ในเครื่องและซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส) อาจลดคุณภาพของวิดีโอ โปรดระมัดระวังไม่ให้เครื่องมือเหล่านี้รบกวนการประชุมทางวิดีโอ 
  • ใช้จอภาพเดียว การใช้จอภาพ 2 จอขึ้นไปอาจทำให้ CPU และ GPU ทำงานหนักเกินไป

    หากยังคงพบปัญหาคุณภาพของการประชุมทางวิดีโอของ Meet โปรดดูหัวข้อแก้ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของวิดีโอและเสียงในการประชุม หรือรายงานปัญหา

ทดสอบการใช้งาน

สิ่งที่ควรทำล่วงหน้า 1 วัน

  • รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
  • เข้าร่วมการประชุมแบบทดสอบจากสถานที่ที่จะประชุมเพื่อตรวจสอบว่ากล้องและไมโครโฟนเชื่อมต่อดีแล้วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความเสถียร

สิ่งที่ควรทำล่วงหน้า 10 นาที

  • ปิดแท็บทั้งหมดและรีสตาร์ทเบราว์เซอร์
  • หากต้องการนำเสนองาน ให้เปิดสไลด์แล้วเตรียมงานนำเสนอไว้ล่วงหน้า (การโหลดสไลด์จะทำให้ CPU ทำงานหนักขึ้นชั่วคราว ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพวิดีโอและเสียง)
  • หากต้องการเห็นผู้เข้าร่วมการประชุมพร้อมๆ กับดูงานนำเสนอ ให้เปลี่ยนเลย์เอาต์ของหน้าจอ
เคล็ดลับเกี่ยวกับการเตรียมตัวและมารยาท
  • ขอให้ผู้เข้าร่วมปิดเสียงเมื่อไม่ได้พูดเพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวน หากต้องการปิดหรือเปิดเสียงของคุณเอง ให้คลิกปิดเสียง หรือใช้แป้นพิมพ์ลัด ⌘/Ctrl + D
  • สร้างกฎในการประชุม เช่น กลับมาร่วมประชุมให้ตรงเวลาหลังจากพักเบรก หรือเปิดโอกาสให้ผู้อื่นพูดบ้างตามความเหมาะสม
  • กำหนดวิธีขอโอกาสพูด เช่น ส่งข้อความแชทระหว่างการประชุมเพื่อเสนอหัวข้อหรือขอแสดงความคิดเห็น
  • ยอมรับหรือปฏิเสธผู้เข้าร่วมจากภายนอกตามความเหมาะสม ผู้ใช้ภายนอกที่ไม่ได้อยู่ในกิจกรรมในปฏิทินจะต้องขออนุญาตเพื่อเข้าร่วมการประชุม โดยผู้เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอที่อยู่ในโดเมนเดียวกับผู้จัดการประชุมจะต้องยอมรับคำขอดังกล่าวก่อน ผู้ใช้ภายนอกจึงจะเข้าร่วมได้ ดังนั้นโปรดขอให้ทุกคนเข้าร่วมการประชุมก่อนเวลา 10 นาทีเพื่อไม่ให้การประชุมเริ่มต้นล่าช้า


Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
พิมพ์ บันทึก หรือปรับแต่งคู่มือสำหรับศูนย์การเรียนรู้

ดูวิธีพิมพ์คู่มือสำหรับศูนย์การเรียนรู้ บันทึกคู่มือเป็นไฟล์ PDF หรือปรับแต่งคู่มือให้องค์กรของคุณ

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
15828404167709468011
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
false
false
false
false